สกู๊ปเด่นจากปก
เปิดแนวรบยางพารา "ภาคตะวันตก"
พร้อมปลูกยาง 1.8 ล้านไร่
สวนยาง 700 ไร่ อายุประมาณ 6-7 ปี ในอ.จอมบึง จ.เพชรบุรี ผ่านการดูแลมาเป็นอย่างดี |
เมื่อ “กฎเหล็ก”
แห่งพืชเกษตรถูก “ล็อก” อยู่กับธรรมชาติ หรือดินฟ้าและอากาศเป็นหัวใจ
การปลูกพืชเกษตรชนิดใดชนิดหนึ่งจึงมักจะถูกจำกัดพื้นที่
เหมือนอย่างที่ยุคหนึ่งสมัยหนึ่ง
“คนใต้” จำนวนหนึ่งนำต้นยางพาราจากภาคใต้มาปลูกในหลายจังหวัดภาคอีสานและเหนือ ซึ่งแน่นอนว่าต้อง “รบ” กับคำปรามาสกับคนในพื้นที่ว่ายางปลูกในพื้นที่อื่นไม่ได้นอกจากภาคใต้
จนถูกมองว่า “บ้า” หรือสติไม่ดี
แต่เมื่อบทพิสูจน์ย่อมจะมีช่วงเวลาแสดงเสมอ...7 ปีหลังจากนั้น
ยางในพื้นที่ปลูกใหม่เริ่มให้ผลผลิตไม่ผิดจากพื้นที่เดิม เป็นการทำลายความเชื่อเดิมๆ
ลงอย่างสิ้นเชิง
ก่อนที่ภาครัฐโดยกรมวิชาการเกษตรจะเริ่มตื่นทดลองนำยางไปปลูกในพื้นที่ต่างๆ
ที่ไม่ใช่ภาคใต้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการเดินตามรอยเท้าของเกษตรกรหัวก้าวหน้าทั้งสิ้น
จวบจนวันนี้
วันที่ราคายางสูงลิ่วเหนือพืชเกษตรอื่นๆ อย่างไม่เห็นฝุ่น เกษตรกรหัวก้าวหน้าที่ “คิดนอกกรอบ”
ถูกกำนัลด้วยตัวเงิน
พร้อมมุ่งหน้าโกยเงินอย่างต่อเนื่องตามแรงเติบโตของอุตสาหกรรมยางโลก
นั่นแหละจึงเกิดการตื่นตัวของเกษตรกรที่ใช้เวลาส่วนใหญ่จมปลักอยู่กับข้อจำกัดของธรรมชาติ
และกฎเกณฑ์ของตลาดทุนนิยมเสรี
ไม่แปลกใช่ไหมที่วันนี้เกษตรกรกว่า
6
ล้านคนทั่วประเทศที่เริ่ม “ตาสว่าง” หันมาลงทุนปลูกยาง
พืชที่ถูกมองว่ามีอนาคตมากที่สุด
นายล้วน แซ่จิ้ว เกษตรกรที่บุกเบิกปลูกยางใน ต.องค์พระ อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี เมื่อ 25 ปีที่แล้วเส้นทางการปลูกยางของเขาเต็มไปด้วยคาวมทุรกันดาน |
อย่างไรก็ตามยางพาราก็มีข้อจำกัดด้านพื้นที่ปลูก
ไม่สามารถปลูกได้ทุกพื้นที่ โดยเฉพาะที่ลุ่ม และพื้นที่แห้งแล้ง
โดยเฉพาะพื้นที่แห้งแล้งน่าจะหมดสิทธิ์ที่ยางจะโต
จนเมื่อมีการส่งเสริมปลูกยางผ่านโครงการของรัฐในหลายยุคหลายสมัยใน
“อีสาน” ภูมิภาคที่ได้ชื่อว่าแห้งแล้งที่สุดของประเทศได้ ก็เท่ากับทำลายกรอบพื้นที่ปลูกยางในพื้นที่อื่นๆ
เช่นกัน
หนึ่งในนั้นคือ
ภาคตะวันตก เพชรบุรี ราชบุรี กาญจนบุรี สุพรรณบุรี และอาจจะรวมไปถึงอุทัยธานี
ซึ่งทราบแล้วว่ากาญจนบุรี และอุทัยธานีเป็นพื้นที่ที่ปลูกยางได้ เพราะมี สกย.
ตั้งสำนักงานอยู่
แต่อีก 3
จังหวัดยังถูก "ล่ามโซ่" อยู่
จังหวัดที่ลอยลำไปแล้วคือ ราชบุรี
ถูกประกาศเป็นเขตส่งเสริมปลูกยางไปแล้ว ส่วนที่เหลืออยู่ภายใต้ยังถูก "ล็อค" จากกรมวิชาการเกษตร
ทั้งๆ
ที่เมื่อเจาะลงไปในพื้นที่แล้วพบว่ามีการปลูกยางกันอย่างแพร่หลายแล้ว โดยเฉพาะ
จ.สุพรรณบุรี มีเกษตรกรรุ่นบุกเบิกนำไปปลูกใน อ.ด่านช้างมากกว่า 25 ปีแล้ว
สหกรณ์การเกษตรด้านช้าง สุพรรณบุรี กับธุรกิจใหม่รวบรวมยางแผ่นดิบจากสมาชิก ที่หันมาปลูกยางกันจำนวนมากแล้ว โดยเฉพาะใน ต.องค์พระ และ ต.วังยาง คาดว่า 2-3 ปี จะเปิดเป็นตลาดประมูลได้ |
ด้วยข้อมูลเหล่านี้จึงเป็นเรื่องค้างคาใจ
“ยางเศรษฐกิจ” อย่างยิ่ง คำถามที่ว่า พื้นที่ภาคตะวันตกปลูกยางได้หรือไม่
ปลูกแล้วผลลัพธ์เป็นอย่างไร ซึ่งสัมพันธ์กับตลาด
ยิ่งเมื่อเห็นตัวเลขการสำรวจพื้นที่เหมาะสมแก่การปลูกยางของกรมวิชาการเกษตรที่ระบุว่า
สุพรรณบุรี ราชบุรี และเพชรบุรี มีพื้นที่เหมาสมปลูกยางรวมมากกว่า 1.8 ล้านไร่
เราจึงลงพื้นที่เพื่อทำลายความสงสัย
ซึ่งเชื่อเหลือเกินว่าผู้อ่านหลายรายก็คงมีความรู้สึกอย่างนั้นติดตามรายละเอียดได้ใน ยางเศรษฐกิจ ฉบับ 12 ฉบับครบรอบ 1 ปี
ไม่มีความคิดเห็น