แม้ว่าการใช้ “แก๊สเอทธิลีน” เร่งผลผลิตในต้นยาง จะมีข้อจำกัด ต้องใช้กับต้นยางอายุ 15 ปีขึ้นไป
เป็น “กฎเหล็ก” แต่ก็มีเกษตรกรชาวสวนยาง “แหกกฎ” นำมาใช้กับต้นยางอายุน้อยกว่านั้น เช่น 11 ปี หรือเปิดกรีดมาแล้วประมาณ 4-5 ปี
ยิ่งไปกว่านั้นยังมีเกษตรกรหลายราย “บ้าดีเดือด” ใช้กับต้นยางเปิดกรีดใหม่...!!!
ข้อมูลการใช้แก๊สเอทธิลีนกับยางเล็กหรือยางเริ่มเปิดกรีด ผู้เขียนและทีมงานยางเศรษฐกิจพยายามใช้ความระมัดระวังอย่างสูงในการนำเสนอ เพราะอาจเป็นแบบอย่างให้เกษตรกรรายอื่นนำไปทำ และนำพาความสูญเสียมาเยือน
หากแต่ทุกครั้งที่จะหยิบยกขึ้นมานำเสนอในหน้านิตยสารสิ่งที่ผู้เขียนยึดมั่นคือ ต้องเป็นเกษตรกรหัวก้าวหน้าทำแล้วประสบความสำเร็จ เพิ่มผลผลิตได้จริงโดยที่ต้นยางไม่มีปัญหา พร้อมกับข้อมูลรอบด้านและขั้นตอนการทำอย่างถูกวิธี
เพราะผู้เขียนเชื่อมั่นว่า ชาวสวนยางเองมีวิจารณญาณสูงในการเก็บข้อมูล และมีการทดลองก่อนตัดสินใจอย่างถี่ถ้วนก่อนนำไปใช้ ผู้เขียนจึงกล้าที่จะนำเสนอเรื่องนี้
เช่นเดียวกับฉบับนี้ ผู้เขียนเดินทางไปยัง อ.บ้านนาเดิม จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อไปดูสวนยางพาราที่เริ่มใช้เอทธิลีนเพิ่มผลผลิตยางมาเป็นเวลากว่า 12 ปี จนแทบจะกลายเป็น “เพื่อนสนิท” กับการทำสวนยางระบบนี้เป็นอย่างดี มีความชำนาญจนกล้าพอที่จะใช้เอทธิลีนกับยางเพิ่งเปิดกรีด
ภาพยางต้นเริ่มเปิดกรีดตั้งแต่ อายุ 5 ปีครึ่งโดยใช้แก๊สเอทธิลีน เร่งน้ำยาง 3 เท่า 4 เท่า ทำอย่างนี้ติดต่อกันเป็นปีที่ 4 คงจะทำให้จินตนาการถึงต้องยางผอมเกร็ง และโทรมจากการรีดน้ำยางอย่างหนัก
แต่ภาพจริงต่างกันอย่างสิ้นเชิง เพราะต้นยางที่ว่า ต้นใหญ่ ใบเขียวสมบูรณ์ ขณะที่น้ำยางออกมามากค่อนถ้วย
เมื่อเปรียบเทียบกับต้นยางที่ปลูกระยะเวลาใกล้เคียงกัน แต่ทำระบบปกติ ขนาดต้นและผลผลิตต่างกันอย่างเห็นได้ชัด
นั่นหมายความว่าเอทธิลีน หาใช้สารไฮสปีดเร่งน้ำยางเพียงอย่างเดียว หากแต่มีประโยชน์ ให้คุณแก่สวนยาง ไปพร้อมๆ กัน
“ผมเริ่มทำสวนยางอัดแก๊สมา 12 ปี โดยประมาณ” สมคิด โพธิ์เพชร เจ้าของสวนยางใน จ.สุราษฎร์ธานี พูดถึงในการใช้แก๊สเอทธิลีนในสวนยาง ซึ่งสะท้อน “ชั่วโมงบิน” หรือประสบการณ์ของเขาเป็นอย่างดี
“เมื่อก่อนก็ไม่กล้าใช้ เขาบอกใช้แล้วต้นยางจะตาย เขาใช้กันตอนต้นยางใกล้โค่นเพื่อเร่งน้ำยาง” สมคิดเองก็มีจุดเริ่มต้นด้วยความกลัว เพราะคำบอกเล่าเช่นเดียวกับเกษตรกรทั่วไป
| สมคิด โพธิ์เพชร เจ้าของสวนยางใน จ.สุราษฎร์ธานี โทรศัพท์ 08-7465-2988 |
แต่ความคิดของเขาเริ่มเปลี่ยนเมื่อได้ลองใช้แก๊สเอทธิลีนกันยางแก่ใกล้โค่น เห็นปริมาณน้ำยางที่ออกมามากกว่าปกติ ก่อนจะเริ่มศึกษาคุณสมบัติของเอทธิลีนและการใช้กับต้นยางมาอย่างต่อเนื่อง จนกล้าพอที่จะใช้กับต้นยางหนุ่มอายุ 12 ปี เปิดกรีดมาแล้ว 4-5 ปี
เขาเลือกใช้อุปกรณ์ติดตั้งเอทธิลีน และแก๊สเอทธิลีน “ยี่ห้อ เลท ไอ” เพราะมีราคาไม่สูงมาก สามารถติดตั้งได้ด้วยตัวเอง เพียงแค่ตอกลงไปกับเปลือกยางและอัดแก๊สเข้าไปเท่านั้น ขณะที่อุปกรณ์ค่อนข้างทน อยู่ได้นานหลายปี
ข้อดีของการใช้เอทธิลีนกับต้นยาง เขาบอกว่าทำให้ผลผลิตเพิ่มสูงขึ้น 3 เท่า ขณะเดียวกันต้นยางกลับสมบูรณ์กว่าต้นยางในพื้นที่เดียวกัน ใบจะเขียวครึ้มทั้งสวน ขณะที่สวนใกล้เคียงที่ไม่ใช้แก๊สใบร่วงบ้าง ไม่สมบูรณ์บ้าง
“เพราะเอทธิลีนมีความจำเป็นต่อต้นยาง และสามารถสร้างขึ้นมาเองได้ แต่เนื่องจากเมื่อทำเป็นสวนยางจะมีการกรีดเอาน้ำยางอย่างต่อเนื่อง จนต้นยางผลิตเอทธิลีนขึ้นมาทดแทนไม่ทัน”
แต่เมื่อมีการเติมเอทธิลีนในรูปของแก๊สเข้าไปในต้นยาง ปริมาณน้ำยางจึงสูงขึ้น เพราะระยะเวลาการไหลของน้ำยางนานขึ้น ปริมาณน้ำยางจึงไหลเกือบเต็มถ้วย
คำถามคือต้นยางใบเยอะดีอย่างไร...???
“เมื่อต้นยางมีใบเยอะ ก็เปรียบเสมือน “โรงครัว” ปรุงอาหารของต้นยาง จากนั้นจะถูกส่งกลับไปหล่อเลี้ยงส่วนต่างของต้นยาง และผลิตน้ำยางได้ปริมาณมาก”
จากการใช้เอทธิลีนกับยางแก่และยางหนึ่ง ทำให้ค้นพบว่า การใช้เอทธิลีน เมื่อก่อนอาจจะใช้ก่อนโค่น เร่งน้ำยางในช่วงลมหายในสุดท้าย แต่ปัจจุบันการใช้เอทธิลีนกลับเป็น “ยาอายุวัฒนะ” คือ ยืดอายุต้นยางเพิ่มมากขึ้น เพราะระบบกรีดในต้นยางอัดแก๊สจะใช้วิธีกรีดยางหน้าสูงและหน้าสั้น
หน้าสูงก็คือ ส่วนบนจากหน้ายางปกติ ซึ่งมีพื้นที่จำนวนมาก และเปลือกยางยังบริสุทธิ์ผุดผ่อง ไม่เคยต้องคมมีดมาก่อน
ขณะที่ความกว้างของหน้ายางจะลดลงมาเหลือ แค่ 8 นิ้ว เท่านั้น หรือประมาณ 4-5 ส่วน ของต้น เมื่อยางหน้าสั้นลง จึงประหยัดหน้ายาง และมีเวลากรีดยาวนานขึ้น ขณะที่ปริมาณยางสูงขึ้น
“ยางหน้าสั้นยังลดความเสี่ยงเรื่องโรคหน้ายาง โดยไม่จำเป็นต้องทายาป้องกันหน้ายางหลังกีดเลย เปลือกใหม่ที่งอกใหม่จะหนามากกว่าปกติอีกด้วย”
พื้นที่หน้ายางส่วนบนนี้น่าจะกรีดได้ไม่ต่ำกว่า 4-5 ปี
ระหว่างกรีดยางจากหน้าบน หน้ายางด้านล่างที่ผ่านการกรีดมานาน จะมีเวลาพักตัว และสร้างเปลือกยางอย่างน้อย 4-5 ปีเช่นกัน เมื่อยางหน้าบนหมด จึงลงกลับมากรีดหน้าปกติได้
อย่างส่วนยางแปลงหนึ่งของเขาที่ทีมงานมาดู เป็นยางพันธุ์ RRIM 600 อายุประมาณ 16 ปี กรีดมาร่วม 10 ปี แต่หน้ายางยังสมบูรณ์อยู่เลย เปลือกงอกใหม่เร็วและเรียบ ไม่เกิดแผลปุ่มโปนใดๆ
“ใช้แก๊สแล้วน้ำยางเพิ่ม ต้นยางสมบูรณ์ ของยังยืดอายุกรีดยางได้นาน”
ส่วนปริมาณน้ำยางที่เพิ่มสูงขึ้น เห็นได้ชัดเจนจากถ้วยรองน้ำยางที่ใช้ เป็นกระป๋อง 4 เหลี่ยม ขนาดความจุ 2 ลิตร ถ้าทำน้ำยางเก็บน้ำยางต้นหนึ่งจะได้น้ำยางประมาณ 0.5-1 ลิตร หรือครึ่งกระป๋อง แต่ถ้าทำขี้ยาง กรีดประมาณ 2-3 มีดก็เต็มถ้วย 2 ลิตรแล้ว ทั้งนี้แล้วแต่ความสมบูรณ์ของยางแต่ละต้น
ส่วนการดูแลต้นยาง สมคิดบอกว่า ไม่ได้พิเศษกว่าสวนยางทั่วไปมากนัก แค่ที่สำคัญคือ ต้องให้อย่างเคร่งครัด คือ ปีละ 2 ครั้ง โดยใช้ปุ๋ยผสมผสานระหว่างปุ๋ยเคมีกับอินทรีย์ แต่จะเน้นอินทรีย์เป็นหลัก อัตราส่วน 4 ต่อ 1 หรือ ปุ๋ยอินทรีย์ 4 กระสอบ ปุ๋ยเคมี 1 กระสอบ /ไร่ ใส่ปีละ 2 ครั้ง
ขณะที่การอัดแก๊สเอทธิลีน จะอัดครั้งละ 20 ซีซี ต่อการกรีด 3 ครั้งหรือ 3 มีด ในหนึ่งเดือนมีต้นทุนเอทธิลีนเพียงเดือนละ 500 บาทเท่านั้น
“ยางแปลงนี้มีต้นยาง 700 ต้น แบ่งลูกน้องแล้วเหลือเงิน 25,000 บาท/เดือน” เขาบอกรายได้หลักหักต้นทุน
หากแต่เขาก็หาวิธีการลดต้นทุนมาอย่างต่อเนื่อง เห็นได้ชัดเจนคือ ถุงเก็บเอทธิลีน เขาจะเปลี่ยนมาใช้หลอดไซลิงค์ หรือหลอดเข็มฉีดยา แทนถุง โดยให้เหตุผลว่า ปกติถุงเมื่อนำไปติดตั้งกับต้นยางมักจะมีปัญหา แมลงมากัดทำลายถุงจนรั่ว ต้องเปลี่ยนอยู่บ่อย จึงหันมาใช้หลอดไซลิงค์แทน เพราะแมลงกันทำลายยาก และสะดวกในการอัดแก๊สเข้าต้นตามปริมาณที่กำหนด เพราะหลอดจะมีตัวเลขวัดปริมาณชัดเจน
นอกจากข้อดีด้านความประหยัดและทนทานแล้วเมื่อใช้ไซลิงค์จะกำหนดปริมาณแก๊สได้แน่นอน ปกติแก๊ส 1 กระป๋องถ้าไม่มีเครื่องวัดอัดได้ประมาณ 100 ต้นเท่านั้น แต่เมื่อใช้ไซลิงค์อัดต้นละ 20 ซีซี จะได้ถึง 200 กว่าต้น ประหยัดและคุ้มค่าอย่างเห็นได้ชัด
“แก๊สที่อัดจากกระป๋องไปเก็บไว้ในหลอดไซลิงค์ จะค่อยๆ ซึมผ่านไปทางหัวตอก และซึมเข้าทางเปลือกยาง มันจะทำให้ท่อน้ำยางเปิด และไหนได้นานขึ้น 8-12 ชั่วโมง โดยไม่เป็นอันตรายกับต้นยาง”
แต่ปัญหาหนึ่งที่ผู้ใช้เทคนิคนี้เพิ่มผลผลิตยางปฏิบัติอย่างเคร่งครัดคือ เว้นระยะกรีดยางนานกว่าปกติ คือ 1 วันเว้น 2 วัน แต่ เกษตรกรมักจะ “ขาดวินัย” มักจะกรีดยางตามปกติ เพราะปัจจัยรุมล้อมรอบด้านบีบบังคับ
“เกษตรกรมักจะเข้าใจว่าหน้ายางสั้นน้ำยางจะออกเยอะได้อย่างไร จึงกรีดยาวกว่าเดิม วันกรีด ต้องหยุด 2 วัน ชาวบ้านมองว่ามันนานเกิน ก็หยุดวันเดียว ตรงนี้สำคัญมาก”
ใช้แก๊สเอทธิลีนกับต้นยางอายุ 5 ปีครึ่ง...!!!
สมคิดเล่าว่า เมื่อ 4 ปีที่แล้วเขาตัดสินใจใช้แก๊สเอทธิลีนกับต้นยางอายุ 5 ปีครึ่ง แต่อายุเท่านี้ขนาดต้นใหญ่กว่า 50 ซ.ม.ทุกต้น เพื่อทดลองว่าจะได้ผลหรือไม่
แต่จะไม่ใช่วิธีการตอกหัวอุปกรณ์ลงไปในเปลือก ใช้วิธีติดและใช้ยางในรถจักรยานรัดให้แน่น แล้วทากาวรอบๆ หัวตอกให้ติดกับต้นยาง วิธีนี้เขาบอกว่าจะช่วยให้แก๊สไม่ซึมรั่วออกมา และที่สำคัญไม่ทำให้เปลือกยางเสียหาย เนื่องจากเป็นช่วงอายุที่เปลือกค่อนข้างบาง
“ตอนที่ผมตัดสินใจใช้เอทธิลีนกับต้นยางอายุ 5 ปีครึ่ง ซึ่งผ่านการตรวจของ สกย.แล้ว เขาจะให้ผมเพิ่มอีก 1 ปี ไร่ละ 1,000 บาท แต่ผมไม่เอา อยากทดลองใช้แก๊ส แต่ต้นยางผมได้ขนาด 50 ซ.ม.ทุกต้น”
เขาบอกว่าต้นยางที่จะใช้ต้องมีขนาด 50 ซ.ม.ขึ้นไป ถ้าเล็กกว่านี้ปริมาณน้ำยางที่ได้อาจจะไม่คุ้มค่ากับต้นทุนการติดตั้งเอทธิลีน
ผลลัพธ์หลังจากนั้นต้นยางก็โตปกติไม่แคระแกร็น แต่จะโตกว่าสวนยางปกติที่ปลูกเวลาใกล้เคียงกันอย่างเห็นได้ชัด เพราะการกรีดไม่จำเป็นต้องกรีดเปลือกหนา และยาว ทำอย่างนี้ต้นยางไม่ได้รับผลกระทบมาก แต่ถ้ายางเล็กแล้วกรีดครึ่งต้น อย่างไรต้นยางก็ชะงักแน่นอน ขณะที่ผลผลิตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันยางแปลงนี้อายุ 9 ปี
เมื่อพิสูจน์แล้วว่าแก๊สเอทธิลีนเพิ่มผลผลิตได้จริง แล้วต้นทุนการติดตั้งชุดอุปกรณ์ และแก๊สเอทธิลีน เป็นอย่างไร คุ้มค่าหรือไม่ สมคิดอธิบายว่า ชุดอุปกรณ์ราคาประมาณ 25 บาท แต่อยู่นานหลายปี
“อย่างของผม 10 ปี ยังใช้ได้อยู่เลย”
นอกจากนั้นยังมีถังรองน้ำยางขนาด 2 ลิตร ราคา 12 บาท รวมต้นทุนทั้งหมดประมาณ 37 บาท /ต้น
ส่วนแก๊สเอทธิลีน เขาบอกว่าถูกมาก (กระป๋องละ 68 บาท) ต้นทุนเพียงต้นละไม่กี่สตางค์ต่อต้น อย่างสวนยางแปลงหนึ่ง มี ต้นยาง 700 ต้น ต้นทุนเอทธิลีนเพียงเดือนละ 500 บาท
“คุ้มค่าแน่นอน เพราะปริมาณน้ำยางออกมาอย่างน้อย 2 เท่า มากกว่าสวนยางปกติ อย่างตอนนี้ขี้ยางราคา 20 กว่าบาท ถ้าปกติยางต้นหนึ่งได้ขี้ยาง 1 กก. ขายได้เงิน 20 กว่าบาท แต่ของผมออกมา 2 กก. ได้เงิน 40 กว่าบาท จะไม่คุ้มได้อย่างไร
“ปัญหาเดียวของเขาคือ เรื่องฝน ต่อให้มีเทคนิคเพิ่มผลผลิตดีอย่างไร ได้ยางเยอะอย่างไร ราคาดีอย่างไร ฝนตกอย่างเดียวก็จบ แต่ถังรองน้ำยางขนาดใหญ่ยังพอจะช่วยได้ เพราะเมื่อฝนตกหลังจากกรีดยาง ยังจะมีน้ำยางเหลืออยู่ในถัง ช่วยได้ระดับหนึ่ง”
ข้อดีอีกอย่างของการใช้ทำสวนยางเอทธิลีน คือ ใช้คนงานน้อยลง เพราะทำขึ้นยางไม่ต้องเก็บยางทุกวัน และกรีดยางเพียงเดือนละ 10 วันเท่านั้น กรีดยางตอนเย็น 2 ทุ่มก็นอนสบายแล้ว
“สวนยาง 50 ไร่ ใช้คนแค่ 2 คนเท่านั้น ได้เงินรวมกัน 35,000 บาท สัดส่วน 70 : 30 สัดส่วนน้อยกว่าสวนยางปกติ แต่ได้ส่วนแบ่งสูงกว่า ทำงานน้อยกว่า คนงานเองก็ชอบ เขาจะมีเวลาทำงานอย่างละเอียด และไม่อยากไปทำสวนยางปกติอีกเลย”
ติดต่อสอบถามผลิตภัณฑ์ได้ที่
หจก.ไอทีรับเบอร์ โทรศัพท์ 08-1969-2908, 0-7328-6156-7
ข่าวดี ช่วงโปรโมชั่นเพื่อชาวสวนยาง อุปกรณ์ Let-I ราคาชุดละ 25 บาทเท่านั้น ฮอร์โมนเอทธิลีนกระป๋องละ 68 บาท ราคาพิเศษทั่วประเทศ
ไม่มีความคิดเห็น