เรื่อง : กองบรรณาธิการ
“ยางเศรษฐกิจ”
ขึ้นพาดหัวใหญ่เป็นสกู๊ปพิเศษหน้าปกแบบแรงๆ เพื่อให้สะท้อนให้เห็น “ภาพ”
และ “อารมณ์” รวมทั้งความทุกข์ร้อนของชาวประจวบคีรีขันธ์ใน 3 อำเภอให้ชัดเจนที่สุด...!!!
กับคำถามที่ว่าเพราะอะไร พื้นที่ อ.ปราณบุรี อ.สามร้อยยอด และอ.กุยบุรี จึงถูกกรมวิชาการเกษตร
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประกาศให้เป็นเขตพื้นที่นอกการส่งเสริมปลูกยาง...???
ทั้งๆ
ที่สภาพพื้นที่ของ 3
อำเภอนี้ไม่ได้แตกต่างจาก อ.เมือง ไม่แตกต่างจาก อ.หัวหิน...และไม่แตกต่างจากภาคอีสาน
...!!!
ทั้งๆ
ที่ปัจจุบันเกษตรกรใน 3
อำเภอมีพื้นที่ปลูกยางเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว สวนทางกับประกาศของกรมวิชาการเกษตร...!!!
ทั้งๆ
ที่เกษตรกรใน 3
อำเภอนี้ผลิตยางแผ่นดิบคุณภาพออกมาป้อนตลาดหลายร้อยตัน/ปี
และมีแนวโน้มสูงขึ้นตามพื้นที่กรีดที่เพิ่มขึ้น...!!!
“หรือเพราะกฎหมายระบุไว้ว่าชื่อ ปราณบุรี สามร้อยยอด กุยบุรี
ห้ามให้ปลูกยาง ถ้าเป็นอย่างนี้จะได้รู้ไว้” อานนท์
โลดทนงค์ ผู้จัดการสหกรณ์ชาวไร่สับปะรดสามร้อยยอด จำกัด
ซึ่งเป็นสหกรณ์ที่มีบทบาทด้านตลาดซื้อขายยางในพื้นที่ดังกล่าว
ตั้งคำถามถึงกรมวิชาการเกษตรแบบกวนๆ
“ถ้าบอกว่า
3 อำเภอนี้อากาศแล้ง
ไม่เหมาะการปลูกยาง แต่อีกหลายอำเภอของประจวบฯ
ก็มีแล้งไม่ต่างกันทำไมส่งเสริมปลูกยางได้” อีกคำถามที่แทงใจ
ถ้าพิจารณาในมุมของวิชาการ
จึงเป็นคำถามที่ยังไม่เคลียร์ใจของชาวสวนยางใน 3 อำเภอเท่าไหร่นัก...!!!
หรือเป็นเพราะ...อิทธิพลในพื้นที่...???
อย่าลืมว่าพื้นที่
3 อำเภอที่ถูก “ล่ามโซ่”
จากกรมวิชาการเกษตร มี “สับปะรด” ยึดสัมปทานหลักอยู่ เป็นแหล่งปลูกสับปะรดใหญ่ที่สุดของประเทศนี้
อีกทั้งมีโรงงานสับปะรดกระป๋องส่งออกยักษ์ใหญ่
และอีกหลายขนาดฝังเสาเข็มอยู่ในพื้นที่นี้
เป็นไปได้ไหมที่จะคิดว่า
การที่ 3
อำเภอของประจวบคีรีขันธ์ถูกประกาศเป็นเขตพื้นที่นอกการส่งเสริมปลูกยาง เป็นเพราะอิทธิพลของโรงงานเหล่านี้...???
ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นคำถามที่เกษตรกรในพื้นที่ฝากส่งไปยังผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง
โดยเฉพาะเจ้าภาพหลักอย่าง “กรมวิชาการเกษตร”
ยางเศรษฐกิจลงพื้นที่ประจวบคีรีขันธ์อีกครั้ง
เพื่อควานหา จุดแข็ง จุดอ่อน ปัญหา และอุปสรรค ของเกษตรกรชาวสวนยางในพื้นที่ 3 อำเภอ
ซึ่งปัญหาใหญ่ของพวกเขาคงหนีไม่พ้นการถูกล่ามโซ่จากกรมวิชาการเกษตร
ซึ่งมีผลผูกพันไปถึงการได้รับความช่วยเหลือจากภาครัฐ โดยเฉพาะด้านแหล่งเงินทุน
การเข้าร่วมโครงการปลูกยางของรัฐ และการสงเคราะห์โค่นยางเก่าปลูกยางใหม่ เป็นต้น
เนื้อหาที่ยางเศรษฐกิจเก็บเกี่ยวได้ถูกรวบรวมและเรียบเรียงมานำเสนอเป็นสกู๊ปเด่นจากปกในฉบับนี้
บนเนื้อที่ 33 หน้า เพื่อเป็นกระจกสะท้อนภาพการผลิตยางของเกษตรกร เพื่อเป็นข้อมูลในการพิจารณา
“ปลดล็อค” โซ่ออกจาก 3 พื้นที่ และยังอาจจะเป็น “โดมิโน่” ไปยังพื้นที่อื่นๆ ที่ถูกโซ่เส้นนี้จากกรมวิชาการเกษตรล่ามไว้...!!!
อาชีพปลูกยางกำลังได้รับความนิยมในประจวบฯ ค่าปลูกต้นละ 5-10 บาท นั่นเป็นเพราะมีชาวไร่สับปะรดหันมาเป็นชาวสวนยางกันมากขึ้นนั่นเอง |
เกษตรกรกำลังนำยางมารวมรวบกันเพื่อขายผ่านระบบประมูล ณ ตลาดประมูลยาง สกย.ประจวบคีรีขันธ์ ส่วนใหญ่เป็นยางคุณภาพ เกรด 3 และ 4 |
ไม่มีความคิดเห็น