เมื่อเร็วๆ นี้ ที่ประชุม ก.ส.ย. ได้อนุมัติจ่ายเงินสงเคราะห์
(Cess)
คืนผู้ส่งออกยางเพิ่มอีกจำนวน 23 ราย คิดเป็นเงินสงเคราะห์ที่ต้องจ่ายคืนมูลค่า 286,526,474.78
บาท ปริมาณยาง 79,590,687.44 กก. พร้อมเร่งตรวจสอบอีก 46 ราย เพื่อขออนุมัติครั้งต่อไป
นางพรทิพย์ ลีระพันธ์
รองผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง เผยว่า
หลังจากที่มีการปรับอัตราการจัดเก็บเงินสงเคราะห์ (Cess) เป็น 5 ระดับ โดยกำหนดให้ผู้ส่งยางออกที่ได้ทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้าไปต่างประเทศก่อนวันที่
4 มิ.ย.53 และผู้ส่งออกยางที่ได้ทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้าในตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทยซึ่งมีกำหนดส่งมอบสินค้าจนถึงวันที่
31 ม.ค.54
รวมถึงผู้ส่งออกยางที่มียางในสต๊อกตามที่
สกย.ตรวจสอบระหว่างวันที่ 20–30 ก.ย.53
แต่ยังไม่มีสัญญาซื้อขายล่วงหน้าตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 3 ส.ค.53 และได้มีการส่งยางออกนอกราชอาณาจักรจริง
จะได้รับการพิจารณาให้สิทธิชำระเงินสงเคราะห์ (Cess) ในอัตราเดิม โดย สกย.ได้มีการแต่งตั้งคณะทำงานตรวจสอบเอกสารหลักฐานในการพิจารณาให้สิทธิในการชำระเงินสงเคราะห์ในอัตราเดิมแก่ผู้ส่งออกยาง
ดังกล่าว ปรากฏว่ามีผู้ส่งยางออกทั้งหมด
123 ราย แต่เข้าหลักเกณฑ์
การพิจารณาฯ เบื้องต้นเพียง 116
ราย ซึ่งในจำนวนนี้ได้ส่งเอกสารเพื่อขอรับสิทธิ 101 ราย ปริมาณยาง 509,406.645
ตัน คิดเป็นเงินสงเคราะห์ที่ต้องจ่ายคืน 1,833.864 ล้านบาท
แต่เมื่อ สกย. ดำเนินการตรวจสอบเอกสารหลักฐานตามหลักเกณฑ์โดยละเอียด
มีเอกสารที่เข้าหลักเกณฑ์ฯ เพียง 99 ราย ปริมาณยาง 420,576.308
ตัน คิดเป็นเงินสงเคราะห์ที่ต้องจ่ายคืน 1,514.075 ล้านบาท ในจำนวนนี้ คณะกรรมการสงเคราะห์การทำสวนยาง
(ก.ส.ย.) ได้อนุมัติให้จ่ายเงินสงเคราะห์คืนแก่ผู้ส่งยางออกไปแล้ว 4 ครั้ง คิดเป็นปริมาณยาง 140,614.941
ตัน เป็นเงินสงเคราะห์ที่จ่ายคืน 506.214 ล้านบาท จึงยังคงเหลือปริมาณยาง 279,961.367
ตัน เป็นเงินสงเคราะห์ที่ต้องจ่ายคืนอีกจำนวน 1,007.816 ล้านบาท
ในคราวการประชุมบอร์ดของ สกย.ครั้งล่าสุดเมื่อวันที่
29 พ.ค.55 มีมติเห็นชอบให้จ่ายเงินสงเคราะห์
(Cess) คืนแก่ผู้ส่งออกยางส่วนที่เหลือดังกล่าว
ซึ่งผ่านการตรวจสอบหลักฐานโดยละเอียด พบว่า มีปริมาณยางอีก 79,590,687.44 กก. คิดเป็นเงินสงเคราะห์ที่สามารถจ่ายคืนได้เป็นเงิน
286,526,474.78 บาท สำหรับเอกสารหลักฐานของผู้ส่งยางออกที่เหลืออีก 46 ราย สกย. จะเร่งรัดตรวจสอบให้แล้วเสร็จเพื่อนำเสนอขออนุมัติ
ก.ส.ย.ต่อไป นางพรทิพย์ กล่าวทิ้งท้าย
นอกจากนี้ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ในฐานะประธาน ก.ส.ย. ได้กล่าวย้ำว่า
“การจ่ายเงินคืนเป็นจำนวนมาก
และมีทั้งผู้ได้รับ และไม่ได้รับเงินคืน
สมควรมีการตรวจสอบโดยละเอียด
เพื่อให้มั่นใจในความถูกต้อง จึงมีนโยบายและมอบหมายให้ สกย. โดยคณะทำงานฯ
ได้ตรวจสอบเอกสารหลักฐานส่วนที่เหลืออีกครั้ง ก่อนนำเสนอ ก.ส.ย. พิจารณา”
นายณัฐวุฒิ กล่าว
ไม่มีความคิดเห็น