เรื่อง : กองบรรณาธิการ นิตยสารยางเศรษฐกิจ
จาก นิตยสารยางเศรษฐกิจฉบับ 25 ประจำเดือนเมษายน 2556
***ภาพและข้อความบนบล็อคนี้ทั้งหมดเป็นลิขสิทธิ์ของนิตยสารยางเศรษฐกิจ
ไม่สงวนสิทธิ์หากจะนำไปเผยแพร่ความรู้ แต่ไม่อนุญาตให้นำไปใช้ประโยชน์เชิงการค้า
ยอมรับซะโดยดีว่าทุกวันนี้ “เจ้าของสวนยาง” มีปัญหาเรื่อง “แรงงานกรีดยาง”...!!!
แรงงานกรีดยางไม่มีคุณภาพ กรีดยางหน้ายางเสีย ส่งผลระยะยาวต่อต้นยาง ซ้ำร้ายไปกว่านั้นเจ้าของสวนเข้าไปสั่งการอะไรคนกรีดยางไม่ได้...!!!
ยังมีการจ่ายผลตอบแทนด้วยระบบ
“หุ้นส่วน” ไม่ว่าจะเป็น 70 : 30, 75 : 35 และ 60:40 เป็นต้น ซึ่งถือว่าสูงมาก เพราะแรงงานกลายเป็น “ต้นทุนหลัก”
สำหรับการทำสวนยาง
แต่จะเชื่อหรือไม่ก็ตามทีว่า “การกรีดยาง” ไม่ได้เป็นวิธีเดียวสำหรับการเก็บเกี่ยวน้ำยาง
แต่มีอีกวิธีหนึ่งที่ง่าย สะดวก และรวดเร็วกว่า ขณะเดียวกันกลับได้น้ำยางมากกว่าการกรีดยาง 3-5 เท่าตัว
ที่สำคัญไปกว่านั้นคือ
จะกรีดเวลาไหนก็ได้ เพราะช่วงระยะที่น้ำยางไหลตั้ง 12 ชั่วโมง
วิธีเก็บเกี่ยวน้ำยางที่กล่าวถึงก็คือ
“การเจาะยาง”...!!!
วิธีการเพียงแค่ใช้
“ตัวเจาะ” ที่เป็นเหล็กแหลมคล้ายตะปู เจาะเข้าไปในเปลือกยาง 2-3 ซ.ม. ทำมุม
45 องศา
จากนั้นใช้หลอดคล้ายหลอดนม เสียบเข้าไป เท่านั้นน้ำยางก็จะค่อยไหลเป็นน้ำลงสูงถ้วยรับน้ำยางแล้ว
เพียงแต่ถ้าต้องการเพิ่มผลผลิตน้ำยางให้สูงขึ้นต้องใช้ควบคู่กับฮอร์โมนเพิ่มน้ำยาง
“เอทธิลีน” หรือที่ชาวสวนยางเรียกว่า “ยางอัดแก็ส” นั่นเอง
จากการสืบค้นข้อมูลทางเอกสารและทางอินเตอร์เน็ต
พบผู้ใช้วิธีการเจาะยางรายหนึ่งบอกเล่าประสบการณ์ผ่านกระทู้หนึ่งในโลกอินเตอร์เน็ตว่า
กำลังเก็บข้อมูลการเจาะยาง ควบคู่กับ ใช้แก๊ซเอทธิลีนที่ จ.ชัยภูมิ กับสวนยาง 12 ไร่ ใช้ระบบกรีด 2 วันเว้น 1 วัน และทำแผ่นดิบ แบ่งรายได้ให้คนกรีด 50%
แต่ประสบปัญหามากมากกับคนกรีด เช่น
1. แบ่งให้คนกรีดมากเกินไป (ส่วนแบ่ง+ขี้ยาง )
2. ฝนตกกรีดไม่ได้
3. ราคาดี สั่งให้คนกรีดขายยาง กลับอกว่ายางไม่แห้ง (ยางที่แห้งคนกรีดขายเอาเงินเข้ากระเป๋าไปแล้ว)
4. ฝนไม่ตก แต่คนกรีดบอกว่า หน้ายังไม่แห้ง แต่กลับกรีดบางส่วนไป
5. เจ้าของสวนหวงหน้ายาง ไม่อยากให้บาดเข้าเนื้อไม้ วันดีคืนดี คนกรีดขอแรงพรรคพวกมาช่วยกรีด
6. อยากยิงคนกรีดแต่กลัวติดคุก...!!!
จนเมื่อได้ศึกษาเทคนิคการเจาะยางร่วมกับเอทธิลีน
ประมาณปลายปี 53 จึงใช้วิธีนี้ พร้อมกับ
1. ไล่คนกรีดออก
2. จาก กรีด เปลี่ยนเป็นเจาะ+ใช้แก๊ซเอทธิลีน เจาะ 1 วัน
เว้น 2 วัน เดือนละ 10 วัน
ไม่เว้นวันฝนตก
3. จากแบ่งเป็น % เป็นจ้างเดือนละ 4,000.-บาท +
เงินพิเศษ 2,000.-บาท รวม 6,000.-บาท
4. จากรายได้เฉลี่ย(ทั้งปี 52) เดือนละ 6,000.-บาท เป็นเดือนละ 50,000.-บาท(บังเอิญต้นปีราคายางแพง)
5. สุขภาพจิตดีขึ้น
แต่ความจริงแล้วเทคนิคการเจาะยาง
ไม่ใช่เรื่องใหม่ มีการศึกษาและทดลองให้กันมานานแล้ว ผ่านการทดลองงานวิจัยของสถาบันวิจัยยาง
กรมวิชาการเกษตร พร้อมๆ กับเกษตรกรนำไปใช้ ทั้งที่ได้ผลดี และไม่ประสบความสำเร็จ
ขณะที่งานวิจัยก็ไม่ได้ถูกต่อยอดไปสู่เกษตรกร
ข้อมูลงานวิจัยเรื่อง เปรียบเทียบผลผลิตยางโดยวิธีการกรีดกับวิธีการเจาะ
ในยางพันธุ์ RRIM 600 เปิดกรีดใหม่ คณะผู้วิจัยประกอบด้วย พนัส แพชนะ ปัจจุบันดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการตลาดกลางยางพาราสุราษฎร์ธานี
และ สมยศ สินธุระหัส เผยแพร่เมื่อปี 2552
งานวิจัยชิ้นนี้ได้ทำการทดลองศึกษาเปรียบเทียบกับยางพาราพันธุ์ RRIM 600 อายุ 7 ปี ระยะปลูก
2.5x8 เมตร ที่ศูนย์วิจัยยางสุราษฎร์ธานี อำเภอท่าชนะ
จังหวัดสุราษฎร์ธานี ระหว่างเดือนตุลาคม 2542 ถึง เดือนกันยายน 2545
วางแผนการทดลองแบบ Randomized Complete Block Design 4 ซ้ำ 5 กรรมวิธีการทดลอง คือ
1. กรีดครึ่งลำต้นวันเว้นวัน
2. กรีดครึ่งลำต้นวันเว้นวันร่วมกับการใช้สารเคมีเร่งน้ำยาง 2.5%
3. กรีดครึ่งลำต้นวันเว้นวันร่วมกับการใช้สารเคมีเร่งน้ำยาง 2.5%
พร้อมพลาสติกคลุมกันฝน
4. ใช้ระบบเจาะวันเว้นสองวัน
5. ระบบเจาะวันเว้นสี่วันร่วมกับการใช้แก๊สเร่งน้ำยาง (เอทิลีน 68%)
ผลการทดลองพบว่าการใช้ระบบเจาะวันเว้นสองวันให้ผลผลิตสูงที่สุดคือ
8.6 กิโลกรัม/ต้น/ปี รองลงมาเป็นผลผลิตจากการใช้ระบบเจาะวันเว้นสี่วัน 7.7
กิโลกรัม/ต้น/ปี เพิ่มขึ้นเป็น 224 และ 200% ตามลำดับ
เมื่อเปรียบเทียบกับระบบกรีดครึ่งลำต้นวันเว้นวัน
รายได้สุทธิเพิ่มขึ้นเป็น 132 และ 125 บาท/ต้น/ปี หรือ ประมาณ 172 และ163%
ตามลำดับ เมื่อเปรียบเทียบกับรายได้จากระบบกรีดครึ่งลำต้นวันเว้นวัน
งานวิจัยดังกล่าวรายงานผลว่า
การเจาะยางเปนการพัฒนาวิธีการเก็บเกี่ยวผลผลิตน้ำยางที่สําคัญขั้นหนึ่งในกระบวนการผลิตยางธรรมชาติขณะนี้
เพื่อแกปญหาหลาย ๆ ประการที่กลาวมาแลวขางตน
โดยเฉพาะอยางยิ่งปญหาการขาดแคลนแรงงานฝมือกรีดยาง ปญหาหนากรีดเดิมเสียหาย
และจํานวนวันฝนตกที่มากเกินไป ถามีวิธีการเจาะยางที่พัฒนาใหใชไดอยางเหมาะสมและสามารถใชแรงงานทั่วไปมาเก็บผลผลิตน้ำยางไดโดยไมกอใหเกิดความเสียหายตอตนยางระยะยาว
แทนการใชคนกรีดแบบดั้งเดิมที่ตองอาศัยแรงงานฝมือที่มีทักษะสูงผานการฝกกรีดยางมาแลวเปนอยางดี
โดยปกติการใชเข็มเจาะเปลือกลําตนยาง น้ำยางจะไหลออกมาเพียงชั่วครูหนึ่ง แลวน้ำยางจะหยุดไหลตามกลไกของกระบวนการทางสรีรวิทยาของตนยาง ทําใหน้ำยางแข็งตัวอุดตันทอน้ำยางในระยะเวลาอันสั้น
จากการศึกษาของ Gomez ในป 1977 พบวาการเจาะยางโดยใชเข็มเจาะสามารถทําใหน้ำยางไหลไดถึง 48 ชั่วโมง เมื่อใชสารเคมีเรงน้ำยางเอทิฟอน (ethephon) บริเวณเปลือกกอนที่จะทําการเจาะ ซึ่งสารเคมีเรงน้ำยาง เอทิฟอน สามารถปลดปลอยแกสเอทิลีน (ethylene) ซึ่งมีคุณสมบัติทําใหน้ำยางแข็งตัวชา และเพิ่มแรงดันออสโมติก (osmotic pressure) ของน้ำยาง มีผลใหการไหลของน้ำยางนานกวาปกติ (ฉกรรจ, 2527; 2533)
จากการศึกษาของสถาบันวิจัยยางมาเลเซียมีระบบรีแอ็คตอริม (REACTORRIM) ซึ่งใชหลักการใหสารเคมีเรงน้ำยางในรูปของแกสปลดปลอยเขาในลําตนยางอยางตอเนื่อง โดยใชวิธีเจาะหนึ่งวันเวนสองวัน ทําใหไดผลผลิตโดยไมตองใชแรงงานฝมือกรีดยางที่มีความชํานาญในการกรีดยางแตอยางใด
วิธีนี้จะชวยยืดอายุการเก็บเกี่ยวผลผลิตของตนยางไปไดอีกนาน เนื่องจากตนยางไมถูกกรีดเปลือกออกไปเหมือนการกรีดในระบบดั้งเดิม (พงษเทพ, 2538; Mohd. Raffali Mohd. Nor
Ahmad Zarin bin Mat Tasi, 1995)
อีกระบบคือระบบริมโฟลว์(RRIMFLOW) เปนการพัฒนาระบบกรีดยางแบบดั้งเดิม
ใหใชไดสะดวกและเหมาะสมกับการกรีดยางหนาสูง มีการแนะนําใหทดลองใชในสวนยางแกกอนทําการโคน
เพื่อปลูกทดแทนใหมในระยะ 5 ป สุดทาย
ระบบนี้ในระยะตน ๆ ไดใชวิธีการกรีดแบบดั้งเดิมดวยรอยกรีดสั้นๆ
ประมาณเศษหนึ่งสวนแปดของลําตน 3 วันตอครั้ง (1/8
S d/3) รวมกับการใหสารเคมีเรงน้ำยางทําใหเพิ่มจํานวนตนกรีดไดถึงคนละ 750 ตน/วัน
เปนผลใหเก็บเกี่ยวน้ำยางไดมากขึ้นอยางเปนที่นาพอใจ
ในระยะตอมาไดมีการประยุกตวิธีการกรีดรอยสั้นแบบตาง ๆ ไปเปนวิธีการเจาะแลวสอดทอขนาดเล็กปกไวในเปลือกยางใหน้ำยางไหลออกมาอยางตอเนื่องตามขบวนการของสารเคมีเรงน้ำยางที่ปลอยเขาใสในลําตนยางโดยตรง ซึ่งมีผลทําใหน้ำยางไหลออกเปนเวลานานกวา 24 ชั่วโมง สามารถขยายเวลาการเก็บเกี่ยวน้ำยางไดครั้งหนึ่งในรอบ 4 วัน (1Pc
d/4)
จึงทําใหสามารถลดจํานวนแรงงานตอพื้นที่ไปไดอีกเป็นจํานวนมาก จนถึงระยะลาสุดของการพัฒนาระบบริมโฟลและรีแอคโตริม การใชเข็มเจาะใหผลผลิตเปนที่พอใจของเกษตรกร
นอกจากนี้ขบวนการใหสารเคมีเรงน้ำยางโดยตรงกับลําตนยางไดมีการปรับปรุงวัสดุอุปกรณใหมีราคาตนทุนต่ำลง
และมีประสิทธิภาพในการเรงน้ำยางมากขึ้น (พงษเทพ, 2538; Sivakumaran, 1996;
Sivakumaran et al., 1991; 1992)
สวนระบบเคตัสโฟล (CATASFLOW,
CATAS: Chinese Academy of Tropical Agriculture Science) ของสถาบันวิจัยยางจีนไดมีการศึกษาระบบเจาะยางรวมกับการใหแกสเอทิลีนเขมขนกับลําตนยางโดยเจาะหนึ่งวันเวนหาวัน (1Pc d/6) เติมแกส 15 วัน/ครั้ง พบวาสามารถยืดระยะเวลาการไหลของน้ำยางไดถึง 36 ชั่วโมง (Liu Shizhong et al., 1997)
ดวยวิธีการและแนวทางการศึกษาในวิธีการเจาะของระบบดังกลาว ไดมีบริษัทเอกชนของไทยรวมกับนักวิชาการอาวุโสในสถาบันวิจัยยางมาเลเซีย
นําระบบเจาะยางที่คลายคลึงกันนี้ออกเผยแพรทดลองใชในหมูเกษตรกรชาวสวนยางบางพื้นที่ในเขตภาคใตและภาคตะวันออกของประเทศไทย
โดยเริ่มตนทําในลักษณะการเหมาสวนแลวบริษัทเจาะเอง เมื่อเกษตรกรเห็นวาบริษัทเจาะแลวใหผลผลิตสูงและวิธีการไมยุงยาก รวมทั้งบริษัทไดทุมโฆษณาทั้งในสื่อสารมวลชน
และใชนักวิชาการของบริษัทแนะนําเกษตรกรโดยตรง ทําใหเกษตรกรชาวสวนยางตื่นตัว และใหความสนใจอยางมากมาย และไดมีการขอความคิดเห็นจากสถาบันวิจัยยาง
เพื่อใหเกษตรกรมีทางเลือกในการเก็บผลผลิตยางตามกรรมวิธีใหม ๆ ในการเพิ่มผลผลิตและมีรายไดเพิ่มขึ้นอยางยั่งยืน
สถาบันวิจัยไดทําการทดลอง
และมีการจัดทําคําแนะนําการใชแกสเรงน้ำยางในสวนยางกอนโคน
และสวนยางอายุมากกวา 15 ป แตยังไมเคยมีคําแนะนําการใชแกสเรงน้ำยางในสวนยางเปดกรีดใหมมากอน
ศูนย์วิจัยยางหนองคาย
เตือน การเจาะยางร่วมกับอัดแก๊ส อาจจะทบต่อต้นยางเล็ก
ขณะเดียวกันศูนย์วิจัยยางหนองคาย เคยออกข่าวเตือนเกษตรกร ที่จะดำเนินการ เจาะยางร่วมกับการใช้แก๊สเอทธิลีน โดย นายสุรเดช ปัจฉิมกุล
ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยยางหนองคาย ได้กล่าวว่าในช่วงที่ยางพารามีราคาสูงขึ้น
มีเจ้าของสวนยางหลายรายในจังหวัดหนองคาย อุดรธานี นครพนม และสกลนคร ให้ความสนใจคิดจะเปลี่ยนจากการกรีดยางแบบเดิม
มาใช้วิธีการเจาะยางร่วมกับการใช้แก๊สเอทธิลีน
และได้สอบถามมายังศูนย์วิจัยยางหนองคายถึงเรื่อง “ผลกระทบของการเจาะยางร่วมกับการใช้แก๊สเอทธิลีนต่อต้นยาง”
เนื่องจากมีพ่อค้านำชุดเจาะยางร่วมกับการใช้แก๊สเอทธิลีนมาแนะนำและขายให้เจ้าของสวนยาง
โดยพ่อค้าดังกล่าวบอกแต่เพียงข้อดี
แต่ไม่บอกถึงข้อเสียหรือข้อจำกัดของการใช้ชุดเจาะยางร่วมกับการใช้แก๊สเอทธิลีน
ศูนย์วิจัยยางหนองคาย จึงนำคำแนะนำของสถาบันวิจัยยาง
มาเป็นข้อชี้แจงให้กับเจ้าของสวนยาง เพื่อให้เจ้าของสวนยางได้เข้าใจถึงข้อดีและข้อจำกัด
และสามารถนำไปใช้ประกอบการพิจารณาก่อนจะตัดสินใจวิธีการเจาะยางร่วมกับการใช้แก๊สเอทธิลีนแทนการกรีดยางแบบเดิม
ดังนี้
1. โดยทั่วไปการเจาะยางร่วมกับการใช้แก๊สเอทธิลีน
สถาบันวิจัยยางแนะนำสำหรับยางแก่ อายุไม่ต่ำกว่า 20 ปี หรือ
ต้นยางก่อนโค่น 3-5 ปี หรือ
ยางที่หน้ากรีดเสียหายมากไม่สามารถกรีดต่อไปได้แล้ว
2. ต้นยางต้องสมบูรณ์ มีขนาดลำต้นโต
ทรงพุ่มและใบสมบูรณ์ดี ไม่แคระแกรน
3. การเจาะยางใช้ได้ในพื้นที่ที่มีฝนตกชุก
การใช้แก๊สจะได้ผลดีเมื่อความชื้นในดินสูง
4. ต้องมีการใส่ปุ๋ยในปริมาณที่เพียงพอ
และเหมาะสมต่อความต้องการของต้นยาง
5. หากเจาะลึกถึงเนื้อไม้
จะทำให้บริเวณที่ถูกเจาะเป็นแผลและมีสีคล้ำ หรือเกิดอาการปลือกบวม
ทำให้เกิดสีคล้ำบนเนื้อไม้บริเวณที่เจาะได้
6. ต้นทุนการใช้แก๊สค่อนข้างสูง
7. การใช้แก๊สต้องมีการเปลี่ยนถุงพลาสติกที่ใช้ใส่น้ำยางจำนวนมาก
ซึ่งถุงพลาสติกเฉพาะ เหล่านี้จะก่อให้เกิดขยะที่ไม่ย่อยสลาย
ซึ่งจะส่งผลทำให้เกิดมลภาวะต่อสภาพแวดล้อมในระยะยาวได้
สำหรับสวนยางในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ถึงแม้จะมีฝนตกชุกและความชื้นสูงในฤดูฝนแต่ในช่วงฤดูหนาวและฤดูแล้งกลับมีความชื้นในอากาศ
และในดินต่ำและเป็นเวลานานกว่า ดังนั้น
การเจาะยางในช่วงฤดูแล้งหรือฤดูหนาวจึงอาจมีผลต่อต้นยาง ทำให้ต้นยางทรุดโทรมเร็ว
อย่างไรก็ตาม
วิธีการเจาะยางร่วมกับการใช้แก๊สเอทธิลีนในยางเปิดกรีดใหม่
สถาบันวิจัยยางยังไม่แนะนำให้ใช้ จำเป็นต้องศึกษาผลกระทบในระยะยาวต่อไปก่อน
![]() |
โกมล ไหมใจดี เกษตรกรหัวก้าวหน้า
ผู้กล้าที่จะปฏิวัติการเก็บเกี่ยวน้ำยางด้วยวิธีเจาะยาง และอัดแก๊ส
|
ขณะที่การนำงานวิจัยเรื่องการเจาะยางไม่ได้รับการเผยแพร่และแนะนำสู่เกษตรกร แต่ก็มีเกษตรกรหัวก้าวหน้ารายหนึ่ง ใน อ.นาทวี จ.สงขลา ศึกษาและกล้าที่จะทดลองนำเทคนิคการเจาะยางมาใช้ในสวนยางควบคู่กับการใช้ฮอร์โมนเอทธิลีนแล้วกว่า 3 ปี
เกษตรกรหัวก้าวหน้ารายนี้ก็คือ นายโกมล ไหมใจดี เจ้าของสวนลุงสิน
สวนยางมากกว่า 100 ไร่ หรือ 10,000 กว่าต้น เป็นยางแก่อายุกว่า 38 ปี
และสวนยางเล็กอายุ 6 ปี ประมาณ 70 ไร่
ทั้งหมดติดแก๊สเอทธิลีนเพิ่มผลผลิตน้ำยางทั้งหมด...!!!
เขาบอกว่าสนใจติดแก็สเอทธิลีนกับยางแก่
ประกอบไปด้วยพันธุ์ 600 235 และ255 เพราะหน้ายางปกติไม่มีพื้นที่กรีดแล้ว
จึงต้องเปิดกรีดหน้าสูง แต่กรีดแบบยางหน้าสั้น บริเวณกรีดก็สูงกว่า 5 เมตร
โดยใช้บันไดยางปีนขึ้นไปกรีด
แล้วใช้เชือกโยงให้น้ำยางไหลตามเชือกมาลงถ้วยด้านโคนต้น
ซึ่งเป็นเทคนิคที่ชาวสวนยางมาเลเซียเคยใช้
แต่ตอนหลังเขาหันมาให้ความสนใจกับการเจาะยาง แทนการกรีด
แต่ก็ไม่ได้ใช้กับต้นยางแก่ เพราะสามารถจะขึ้นไปเจาะได้ ทำงานลำบาก เพราะการเจาะยางถ้วยต้องอยู่ติดกับหลอด
แต่การเจาะยางเขาทดลองใช้กับสวนยางเล็กอายุ
6 ปี ที่เปิดกรีดได้ไม่กี่เดือน เขาบอกว่าการเจาะควรใช้กับหน้ายางที่ยังไม่เคยกรีด
และยางเล็กที่ยังมีหน้ายางดีๆ ก็เหมาะที่สุด
อีกทั้งการเจาะต้นยาง
ไม่จำเป็นต้องหาคนเก่งมีฝีมือ เด็ก 8 ขวบก็สามารถทำได้ เพราะในสวนลูกชายคนสวนก็ช่วยเจาะยางอยู่
เพราะแค่แทงเข้าเปลือก 45 องศา เอาหลอดเสียบเข้าแผลเจาะน้ำยางก็ไหลออกมาแล้ว
ข้อดีของการเจาะจากการทดลองมา 3 ปี คือ หน้ายางไม่เสีย
ไม่มีแผล ที่สำคัญการเจาะทำเวลากลางวัน เหมือนเราเจาะแล้วใส่หลอดเข้าไปเลย ทำง่ายและรวดเร็ว
ไม่เพียงเท่านั้นในฤดูฝนก็เจาะได้เพราะหน้ายางไม่เปียก
เพราะเราเอาน้ำยางอย่างเดียว แต่สำคัญว่าถ้วยรองน้ำยางต้องใหญ่ ประมาณ 3 ลิตร
เพื่อว่าเวลาฝนตกน้ำยางก็ยังอยู่ไปไหลออกนอกถ้วย
เทคนิคล่าสุดในการเจ้ายางติดแก๊สคือ เขาสามารถเจาะยางเพื่อเอาน้ำยางได้แม้ในหน้าแล้ง
โดยใช้วิธีการให้น้ำ ซึ่งเป็นการทดลองวิธีใหม่ในหน้าแล้งนี้
เขาเล่าวิธีการว่า
ขุดเป็นร่องให้น้ำไหลไปตามร่องกลางแถวยาง ขุดให้กว้างประมาณ 25 ซ.ม. เพียงแค่ปล่อยน้ำเข้าร่องสวน
เพื่อให้ใบยางแก่เร็ว น้ำยางก็จะออกตามปกติ และออกดีกว่าหน้าฝนซะอีก เดือนมีนาคมก็เริ่มเปิดกรีดแล้ว
เขาบอกว่า ถ้าสวนยางเป็นพื้นที่เสมอ ติดคลอง ก็สามารถลงทุนให้น้ำได้ ต้นทุนการให้น้ำประมาณ
2,000 กว่าบาท/ไร่เท่านั้น
ผลก็คือหน้าแล้งน้ำยางกลับเยอะกว่าหน้ากรีดปกติด้วยซ้ำไป
เพราะเวลาใส่ปุ๋ยก็ใส่ไปกับน้ำเลย ยิ่งหน้าร้อนแดดจะดีต้นยางสังเคราะห์แสงดีมาก
เขาบอกว่าการเจาะยางและติดแก๊สสามารถใช้ได้ทุกพื้นที่ที่มีสวนยาง
สำคัญว่าถ้าหน้าแล้งอย่างนี้ถ้ากรีดไปก็ไม่มีน้ำยางเพราะมันแล้ง ก็ไม่น่าจะทำ
แต่ถ้าไม่มีน้ำก็ไปทำฤดูเปิดกรีดปกติ จะทำได้ก็ต่อเมื่อมีแหล่งน้ำ และมีการให้น้ำ “ถ้ามีน้ำก็เริ่มเจาะได้ตั้งแต่ใบเป็นเพสลาด
แล้วให้น้ำ น้ำจะเข้าไปเลี้ยงต้นให้สมบูรณ์”
![]() |
ให้น้ำสวนยางหน้าแล้ง
สามารถเจาะยางได้ปกติ เจ้าของสวนลุงสินบอกว่าได้น้ำยางเยอะกว่าหน้ากรีดปกติเสียอีก
เพราะน้ำดี แดดดี มีระบบการเพิ่มผลผลิต และการเจาะที่ดีหน้ายางไม่เสีย
|
แต่อย่างไรก็ตามเขายอมรับว่า
ต้นยางแก่อัดแก๊สและกรีดหน้าสั้น จะได้น้ำยางดีกว่าการเจาะยางติดแก๊สกับยางเล็ก เพราะอยู่ที่ความสมบูรณ์ของต้นยางต่างกัน
ต้นยางแก่จะได้น้ำยางประมาณ 2 ลิตร/ต้น แต่ถ้าต้นเล็กเฉลี่ยจะได้ 300 ซีซี. แต่ถ้ายางเล็กต้นที่สมบูรณ์ใหญ่และใหญ่อาจจะได้ถึง
1 ลิตร แต่ก็จะเยอะกว่าต้นที่กรีดแบบธรรมดาไม่ติดแก๊สหลายเท่าตัว
เกษตรกรหัวก้าวหน้ารายนี้การันตีจากประสบการณ์ว่า
ยางเล็กที่อัดแก๊สไม่มีผลต่อต้นยาง เพราะแก๊สเอทธิลีนเป็นประโยชน์ต่อต้นยาง และการเจาะยางแบบติดแก็ส
การเจาะจะมีการสลับเวียนจนรอบต้นไม่ได้ติดอยู่กับที่
แต่การตัดต้องซ้ำอยู่บริเวณที่เดิม ต้นยางก็ไม่มีแผลไม่การหน้ายางเสีย
ต้นยางได้เติบโตตลอด
ขนาดที่บริษัทยักษ์ใหญ่ของประเทศยังต้องส่งเจ้าหน้าที่ระดับสูงเข้ามาดูงานในสวนยางแห่งนี้
เพื่อนำไปทดลองใช้กับสวนยางภาคเหนือและอีสาน
อุปกรณ์การเจาะยางแบบติดแก็สเอทธิลีนประกอบด้วย
ชุดอุปกรณ์อัดแก๊สเอทธิลีน ต้นทุนประมาณ 55 บาท/ต้น ถ้วยรองน้ำยางขนาด 3 ลิตร
เครื่องมือเจาะต้นยางเป็นเหล็กแหลมที่ทำมาจากเหล็กกล้า ราครา 150 บาท
แต่ก็สามารถดัดแปลงทำได้เองโดนใช้ตะปู 2 นิ้วผอมมาทำ และหลอดลักษณะเหมือนหลอดนม
แต่มีลักษณะพิเศษตรงที่แข็งและหนากว่า ขนาดต้องเล็กกว่าเหล็กเจาะเล็กน้อย ราคากิโลกรัมละ
500 บาท (4,000 อัน) เวลาแทงเข้าไปมันจะพอดี
น้ำยางไปไหลออกด้านข้างลงถ้วยยาง
ส่วนอุปกรณ์และแก๊สเอทธิลีน
เขาบอกว่าใช้ของญี่ห้อไหนก็ได้ แต่ต้องเป็นอุปกรณ์แบบ “ตัวตอก”
เพราะการติดตั้งง่ายกว่า
“แต่ไม่มีใครทำเรื่องยางเจาะ
เพราะแม้จะดูเหมือนทำง่าย แต่ก็มีเทคนิคอยู่เหมือนกัน แต่มันก็ไม่ยาก
เพราะตำแหน่งที่เราเจาะอยู่ห่างจากตัวตอก 1-2 นิ้ว แต่เวลาทำมันจะสอนคนเจาะเอง
เราจะทดลองและรู้ว่าอยู่ตรงไหนน้ำยางจะออกดี ทุกอย่างจะสอนเราเอง แต่ก็ง่ายกว่าดารตัดยางเยอะ”

“แต่ผมขายไม้ยางที่ใช้แก๊สไปแล้วแปลงหนึ่ง ประมาณ
400 ต้น ยางอายุ 35 ปี ขายได้ต้นละ 2,300 บาท หรือ 900,000 บาท และขายเป็นกิโล เพราะรู้ว่าที่ขายกิโลละกี่บาท
ไม่มีปัญหาเรื่องโรงงานไม้ยางไม่ซื้อหรือ กดราคาเลย”
![]() |
ด้วยระบบการเจาะยางที่ไม่เกิดแผล
ต้นยางไม่ได้ระการกระทบกระเทือน ถ้ามีใช้แก็สเอทธิลีนอย่างถูกต้อง และการบริหารจัดการควบคู่ที่ดี
ต้นยางไม่ต้องโค่นกันยังลูกยันหลานเลยทีเดียว
|
ขณะที่เกษตรกรมาดูงานสวนลุงสินส่วนใหญ่คือคนเหนือและอีสาน
เพราะเกษตรกรโซนนี้ยังกรีดยางไม่เป็นหรือกรีดไม่ชำนาญ
“แต่คนทำก็ยังไม่เยอะมาก
เพราะเป็นงานละเอียดอ่อนต้องดูแลตลอด ไม่ได้ปล่อย ต้องทำต่อเนื่อง ดูแลต่อเนื่อง
ทั้งปุ๋ยและน้ำ เจ้าของสวนจะต้องขยัน”
จะเห็นได้ว่าการเจาะยางควบคู่กับการอัดแก๊ส
สามารถแก้ปัญหาเรื่องแรงงานการกรีดยาง ซึ่งกำลังจะเป็นปัญหาใหญ่กับสวนยางพารา และยังสามารถเก็บเกี่ยวน้ำยางได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด
เพราะหน้ายางไม่เสียเลย
ขณะเดียวกันเอทธิลีนคือ ฮอร์โมนเพิ่มผลผลิตน้ำยาง
เพียงแต่ต้องมีการดูแลต้นยางอย่างถูกเวที
การเจาะยางแทนการกรีดยางจึงเป็นอีกวิธีหนึ่งของการเก็บเกี่ยวน้ำยางที่น่าสนใจยิ่งนัก
(อ่านเนื้อหาประกอบ : ฮอร์โมนเอทธิลีน ทางลัดสู่เศรษฐีสวนยาง
เพิ่มน้ำยาง 3-5 เท่า ยางเศรษฐกิจ ฉบับที่ 2/2554 และ กลยุทธ์สร้างสวนยางเงินล้าน
ด้วยฮอร์โมนเอทธิลีน ท็อปโฟลว์ ยางเศรษฐกิจฉบับ 5/2554)
![]() |
เทคนิคการกรีดยางแก่ หน้าสูง
จากมาเลย์ ใช้บันไดปีนขึ้นไปกรีดสูงกว่า 5 เมตร ให้น้ำยางไหลมาตามเชือกสู่ถ้วยยาง
|
![]() |
ปริมาณน้ำยางต่อวันกรีด
เมื่อติดตั้งแก๊สเอทธิลีน ยิ่งต้นใหญ่น้ำยางยิ่งสูง
|
![]() |
อุปกรณ์สำหรับเจาะเปลือกยาง
แทนการกรีดยาง
|
![]() |
วิธีการเจาะเปลือกยาง ทำมุมเจาะ 45
องศา เจาะเข้าไป 2-3 ซ.ม. เท่านั้น น้ำยางก็ไหลแล้ว
|
***ภาพและข้อความบนบล็อคนี้ทั้งหมดเป็นลิขสิทธิ์ของนิตยสารยางเศรษฐกิจ ไม่สงวนสิทธิ์หากจะนำไปเผยแพร่ความรู้ แต่ไม่อนุญาตให้นำไปใช้ประโยชน์เชิงการค้า
ขอทราบว่าที่จังหวัดชัยภูมิที่ใช้วิธีนี้ เจ้าของสวนชื่ออะไร อยู่หมู่บ้านอะไร ตำบล อำเภออะไรครับ จะไปดูตัวอย่าง
ตอบลบขอทราบว่าที่จังหวัดชัยภูมิที่ใช้วิธีนี้ เจ้าของสวนชื่ออะไร อยู่หมู่บ้านอะไร ตำบล อำเภออะไรครับ จะไปดูตัวอย่าง
ตอบลบระยะนี้มีคนทำกันมากทุกภาคของประเทศ และมีแนวโน้มว่าระบบกรีดแบบเดิมจะหายไปในไม่ช้า เพราะแบบใหม่ถ้าทำตามระบบคือ พ่นปุ๋ยทางลำต้นทุกเดือนแทนการให้ปุ๋ยทางดินปีละ 2 ครั้ง จะทำให้ต้นสมบูรณ์ภายใน3 เดือนใบจะใหญ่ หนา เขียวเป็นมันอย่างเห็นได้ชัด ผลผลิต อย่างน้อย 2 ถึง 3 เท่าในเดือนแรก เจาะเพียง 9 ครั้ง เจาะ 1 วัน เว้น 2 วัน ถ้าเคยได้ต้นละ 7 ขึดต่อเดือนจะได้ผลผลิตเป็น 1.5-2 กก./เดือนทีเดียว ซึ่งเป็นประสบการณ์ตรงของผมที่ทำอยู่ที่อุดรธานี ขอนแก่น และเลยครับ ยินดีแลกเปลี่ยนประสบการณ์งานวิจัย 093-3252856
ตอบลบhttps://sites.google.com/site/yangthai18/yangpara
ตอบลบเทคโนโลยีใหม่ ในเพิ่มปริมาณน้ำยางพารา ด้วย ฮอร์โมน จากประเทศมาเลเซีย
เห็นผล 100% ภายใน 24 ชั่วโมง ผลผลิตน้ำยางเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิม รายได้เพิ่มขึ้น
และช่วยยืดอายุต้นยางอีกนับ 10 ปี โดยการกรีดระบบสั้น ทำงานน้อยลง รายได้เพิ่มขึ้น คืนทุนภายใน 1เดือน
ศึกษารายละเอียดได้ที่ Web นี้ คลิกที่นี้เลย http://yangthai18.googlepages.com
สอบถามรายละเอียดได้ที่ : 087-147-4831 ทุกวัน
Email : yangthai18@gmail.com
เรามีชุดทดลองจำหน่าย ไม่เห็นผลยินดีคืนเงิน ใช้กันมานานมากกว่า 10 ปีแล้ว
https://sites.google.com/site/yangthai18/yangpara
ตอบลบเทคโนโลยีใหม่ ในเพิ่มปริมาณน้ำยางพารา ด้วย ฮอร์โมน จากประเทศมาเลเซีย
เห็นผล 100% ภายใน 24 ชั่วโมง ผลผลิตน้ำยางเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิม รายได้เพิ่มขึ้น
และช่วยยืดอายุต้นยางอีกนับ 10 ปี โดยการกรีดระบบสั้น ทำงานน้อยลง รายได้เพิ่มขึ้น คืนทุนภายใน 1เดือน
ศึกษารายละเอียดได้ที่ Web นี้ คลิกที่นี้เลย http://yangthai18.googlepages.com
สอบถามรายละเอียดได้ที่ : 087-147-4831 ทุกวัน
Email : yangthai18@gmail.com
เรามีชุดทดลองจำหน่าย ไม่เห็นผลยินดีคืนเงิน ใช้กันมานานมากกว่า 10 ปีแล้ว